PROMOTING THE DRIVING OF LOMRAK COMMUNITY ACTIVITIES BASED ON BUDDHIST PRINCIPLES: A CASE STUDY OF WAT CHAM UTHIT COMMUNITY, MUEANG DISTRICT,SONGKHLA PROVINCE

Abstract

This research, titled “Promoting the Driving of Community-Based Healing Activities through Buddhist Principles: A Case Study of Wat Chaem Uthit Community, Mueang District, Songkhla Province,” had three main objectives: (1) to study theoretical concepts for driving the activities of the Community-Based Treatment (CBTx) model, (2) to explore appropriate Buddhist principles for such initiatives, and (3) to promote the implementation of community-based activities through Buddhist teachings. The case study area was Wat Chaem Uthit Community, which has been experiencing ongoing problems with drug abuse, especially among youth and local residents in high-risk areas such as alleyways and mountainous zones. These conditions have led to compounded issues involving health, education, and family relationships.The findings revealed that the success of the CBTx initiative depended on strong collaboration among three main sectors: local monastics, community leaders, and government-affiliated networks. The activities used to support drug rehabilitation spanned across individual, family, and community levels. These included spiritual-based programs such as novice ordination, moral training camps, and Dhamma discussions; family-based therapies such as home visits by monks and community leaders; and community-based activities such as candlelight processions, tree-planting, and public forums. All initiatives were carried out under the conceptual framework of the Four Noble Truths—recognizing suffering, understanding its causes, realizing its cessation, and following the path leading to its end.Furthermore, the application of the Four Noble Truths as a framework for rehabilitation yielded highly positive outcomes, especially in the transformation of behavior, mindset, and attitudes among participating patients. Participants gained awareness of life’s value, set occupational goals, and successfully reintegrated into society with dignity. These activities also strengthened community solidarity, making the prevention of drug problems more tangible and sustainable. The model serves as a practical and effective example that can be expanded to other communities.

งานวิจัยเรื่อง ส่งเสริมการขับเคลื่อนกิจกรรมของชุมชนล้อมรักษ์ด้วยหลักพุทธธรรม: กรณีศึกษาชุมชนวัดแช่มอุทิศ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาแนวคิดทฤษฎีการขับเคลื่อนกิจกรรมของชุมชนล้อมรักษ์ 2) เพื่อศึกษาหลักพุทธธรรมที่เหมาะสมในการขับเคลื่อนกิจกรรมของชุมชนล้อมรักษ์ 3) เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนกิจกรรมของชุมชนล้อมรักษ์ด้วยหลักพุทธธรรม : กรณีศึกษาชุมชนวัดแช่มอุทิศ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ซึ่งประสบปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างต่อเนื่องในกลุ่มวัยรุ่นและประชาชนในชุมชน โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงติดแนวเขาและซอยต่าง ๆ ที่เข้าถึงได้ง่าย ส่งผลให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนทั้งด้านสุขภาพ การศึกษา และความสัมพันธ์ในครอบครัว ผลการศึกษา พบว่า แนวทางการดำเนินกิจกรรมชุมชนล้อมรักษ์อาศัยการมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งจากสามภาคส่วน ได้แก่ พระสงฆ์ในพื้นที่ ผู้นำชุมชน และเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐ โดยกิจกรรมที่นำมาใช้ในการบำบัดและฟื้นฟูผู้เสพติดมีทั้งในระดับปัจเจก ครอบครัว และชุมชน อาทิ กิจกรรมศาสนสัมพันธ์บำบัด เช่น การบวชสามเณรภาคฤดูร้อน การเข้าค่ายคุณธรรม จริยธรรม การสนทนาธรรมเพื่อฟื้นฟูจิตใจ กิจกรรมครอบครัวบำบัด เช่น การเยี่ยมบ้านโดยพระและผู้นำชุมชน และกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์บำบัด เช่น การเวียนเทียนร่วมกัน การปลูกต้นไม้ การตั้งเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังปัญหา ทั้งหมดดำเนินการภายใต้กรอบแนวคิดอริยสัจ 4 ที่เน้นการ “รู้ทุกข์ – เหตุแห่งทุกข์ – ความดับทุกข์ – ทางสู่ความดับทุกข์” นอกจากนี้การใช้หลักอริยสัจ 4 เป็นแนวทางในการฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติด พบว่าส่งผลในเชิงบวกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม ความคิด และเจตคติของผู้ป่วยที่เข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง มีการตระหนักรู้ในคุณค่าชีวิต มีเป้าหมายในการประกอบอาชีพ และสามารถกลับเข้าสู่สังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี กิจกรรมเหล่านี้ยังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน ทำให้เกิดการรวมพลังในการป้องกันปัญหายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน อันเป็นแบบอย่างที่สามารถนำไปขยายผลในชุมชนอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ