รูปแบบการจัดการเรียนรู้ของนักศึกษาระดับอุดมศึกษา เพื่อผลลัพธ์การเรียนรู้ด้วยพุทธบูรณาการ

Abstract

The objectives of this thesis are 1) to study process of learning management, 2) to explore Buddhist principles related to learning management, 3) to integrate learning management of higher education students for learning outcomes, and 4) to propose the knowledge on "Learning Management Models of Higher Education Students for Learning Outcomes with Integrated Buddhism" The research method used is qualitative research, including fieldwork. The Doctor of Philosophy Program in Design Arts, Faculty of Decorative Arts, Silpakorn University is used as a case studyA descriptive report from content-based data analysis and an inductive summary of 25 participants are presented with field sampling data. The results of study indicate that the program aims to create quality people with knowledge and competence, focusing on learning outcomes (OBE) according to the four main points under higher education qualification standards: knowledge, skills, ethics, and character. The teaching and learning process emphasizes practice-based research and active learning management, allowing learners to learn on their own. Technology also plays a role in information retrieval. Results of organized learning exchanges inside and outside the classroom and practiced team building are evaluated periodically by applying the concept of The Revised Bloom Taxonomy (Lorin Anderson & David Krathwohl, 2001) in order to design teaching methods. This model aims to achieve learning outcomes by integrating Buddhism, expanding understanding knowledge with the Discrimination 4: Wisdom - W, skills through self-training to be expertise with the Seven foregoing sign: Origination - O, ethics from Buddhist philosophy with the moral shame and dread: Consciences - C, and character integrated with Patibhana Patisambhida to be an agility leadership: A- Agility. The new knowledge of research present by WOCA Model (W-Wisdom, O-Origination, C-Consciences, A-Agility) serves as a guide for learning management to achieve learning outcomes integrated Buddhism for the graduate program.

ดุษฎีนิพนธ์เรื่อง “รูปแบบการจัดการเรียนรู้ของนักศึกษาระดับอุดมศึกษาเพื่อผลลัพธ์การเรียนรู้ด้วยพุทธบูรณาการ” มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการจัดการเรียนรู้ของนักศึกษาระดับอุดมศึกษาเพื่อผลลัพธ์การเรียนรู้ 2) ศึกษาหลักพุทธธรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้ 3) บูรณาการหลักพุทธธรรมในการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างผลลัพธ์การเรียนรู้ และ 4) เสนอรูปแบบการจัดการเรียนรู้ของนักศึกษาระดับอุดมศึกษาด้วยพุทธบูรณาการ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพแบบภาคสนาม การเก็บข้อมูลจากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักจำนวน 25 รูป/คน ผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึกและการสนทนากลุ่ม จากกรณีศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาศิลปะ การออกแบบ (หลักสูตรนานาชาติ) คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิเคราะห์ข้อมูลด้วย วิธีอุปนัย และนำเสนอด้วยการพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า สภาพการจัดการเรียนรู้ของนักศึกษาระดับอุดมศึกษา มุ่งเน้นผลลัพธ์การเรียนรู้ (Outcome-Based Education: OBE) โดยมีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ ความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skills) จริยธรรม (Ethics) และลักษณะบุคคล (Character) หรือที่เรียก รวมว่า KSEC ซึ่งแนวโน้มการเรียนรู้ได้พัฒนาไปสู่รูปแบบเชิงรุก การใช้เทคโนโลยี การเรียนรู้ด้วยตนเอง และการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริงที่มีความหมาย หลักพุทธธรรมกับกระบวนการจัดการเรียนรู้ พบว่า หลักธรรมที่มีความเหมาะสมในการส่งเสริมผลลัพธ์การเรียนรู้ (KSEC) ได้แก่ 1) ปฏิสัมภิทา 4 เพื่อเสริมสร้างด้านความรู้พัฒนาเป็นปัญญารอบด้าน 2) บุพนิมิต 7 ประการ นิรุตติปฏิสัมภิทาเพื่อสร้างความพร้อมทางจิตใจสำหรับการเรียนรู้ด้านทักษะ 3) หิริโอตตัปปะ เพื่อพัฒนาเจตจำนงทางศีลธรรมด้านจริยธรรรม และ 4) โยนิโสมนสิการสัมปทา ทิฏฐิสัมปทา ปฏิภาณปฏิสัมภิทากัลยาณมิตตตา เพื่อการคิดอย่างลึกซึ้ง รอบคอบ ปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ด้วยภาวะผู้นำ และผลบูรณาการการจัดการเรียนรู้ของนักศึกษาระดับอุดมศึกษาด้วยหลักพุทธธรรม สังเคราะห์เป็นองค์ความรู้ “WOCA Model” มีองค์ประกอบ 4 ขั้น ได้แก่ 1) การรู้คิด การวิเคราะห์สืบเหตุหาผลด้วยทัศนคติที่ถูกต้องด้วยอัตถปฏิสัมภิทาและธัมมปฏิสัมภิทาเป็นปัญญา (Wisdom) - W 2) การเตรียมตนให้มีพร้อมที่จะพัฒนาตนไปสู่ความสำเร็จตามเหตุปัจจัย การฝึกฝนบ่มเพาะทักษะพร้อมสติและใคร่ครวญอย่างถูกวิธีเพื่อความเชี่ยวชาญพร้อมเผยแพร่ ด้วยบุพนิมิต 7 ประการ และนิรุตติปฏิสัมภิทา เป็นอัตลักษณ์ (Origination) - O 3) การเสริมสร้างจิตสำนึกกุศลด้วยหิริโอตตัปปะ ก่อเกิดประโยชน์ส่วนรวม (Conscious) - C 4) การพัฒนาคุณลักษณะบุคคล ด้วยปฏิภาณปฏิสัมภิทา และโยนิโสมนสิการสัมปทา เพื่อเสริมสร้างความคิดทัการณ์ในภาวะผู้นำสร้างสรรค์ (Agility) - A ผลการตรวจสอบรูปแบบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า “WOCA Model” มีความเหมาะสมทั้งในเชิงแนวคิด โครงสร้าง และความเป็นไปได้ในการนำไปใช้เป็นแนวทางจัดการเรียนการสอน เพื่อผลลัพธ์การเรียนรู้ด้วยพุทธบูรณาการในหลักสูตรระดับอุดมศึกษา ทั้งยังสามารถประยุกต์ใช้ได้กับหลากหลายศาสตร์และกลุ่มผู้เรียน เพื่อพัฒนา “บัณฑิตที่สมบูรณ์” อย่างรอบด้านตามอุดมคติทางการศึกษาของพระพุทธศาสนา