A MODEL OF ACHIEVEMENT IN PUBLIC WELFARE WORK OF THE SANGHA IN THE CENTRAL REGION SANGHA

Abstract

This dissertation, titled "A Model of Achievement in Public Welfare Work of the Sangha in the Central Region Sangha," aims to 1) study Buddhist principles that promote the achievement of public welfare work of the Central Sangha, 2) study the public welfare work of the Central Sangha, 3) create a model for the performance of public welfare work of the Central Sangha, and 4) present knowledge about “A Model of Achievement in Public Welfare Work of the Central Sangha.” This qualitative research collected data from the Tipitaka, Commentaries, related research, and in-depth interviews with 21 experts and analyzed the findings using descriptive analysis. The results show that Buddhist principles supporting public welfare work include Buddhist Conduct (Buddhacarita), Perfection of Giving (Dana Paramita), Bases of Social Solidarity (Sangahavatthu), and Noble Friendship (Kalyanamitta Dhamma). These principles provide a systematic framework for the Sangha’s relief efforts, ensuring social impact and fostering harmony within communities. The public welfare work of the Central Sangha is categorized into four aspects: 1) Assistance and relief, 2) Support and empowerment, 3) Participation in development, and 4) Network integration. The study develops the "MAHATHERA MODEL" to represent the achievements of the Central Sangha’s public welfare efforts. This model consists of nine key dimensions: Moral Foundation, Altruistic Service, Holistic Well-being, Adaptive Development, Transformative Engagement, Humanitarian Leadership, Empowering Communities, Resilient Network, and Authentic Wisdom.This model provides a strategic framework for the Central Sangha to enhance the effectiveness of public welfare initiatives, ensuring alignment with societal needs and promoting sustainable development. It serves as a valuable guideline for Sangha members to strengthen their social engagement and establish a holistic welfare system based on Buddhist ethics.

ดุษฎีนิพนธ์เรื่อง “รูปแบบผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์ หนกลาง” มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาหลักพุทธธรรมที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์หนกลาง 2) เพื่อศึกษางานสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์หนกลาง 3) เพื่อสร้างรูปแบบผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์หนกลาง และ 4) เพื่อนำเสนอองค์ความรู้เกี่ยวกับ “รูปแบบผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์หนกลาง” งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยใช้การศึกษาข้อมูลจาก พระไตรปิฎก อรรถกถา เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ทรงคุณวุฒิ 21 รูป/คน และนำข้อมูลมาวิเคราะห์เชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า หลักพุทธธรรมที่สนับสนุนการปฏิบัติงานสาธารณสงเคราะห์ ได้แก่ พุทธจริยา ทานบารมี สังคหวัตถุ และกัลยาณมิตรธรรม ซึ่งช่วยให้คณะสงฆ์สามารถดำเนินงาน สาธารณสงเคราะห์อย่างเป็นระบบ ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม และสร้างความสมานฉันท์ในชุมชน งานสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์หนกลางแบ่งออกเป็น 4 ลักษณะ ได้แก่ 1) การสงเคราะห์ช่วยเหลือ 2) การสนับสนุนเกื้อกูล 3) การมีส่วนร่วมในการพัฒนา และ 4) การบูรณาการเครือข่าย จากการศึกษาพบว่ารูปแบบผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานสาธารณสงเคราะห์ของคณะสงฆ์หนกลาง สามารถพัฒนาเป็น "MAHATHERA MODEL" ซึ่งประกอบด้วย 9 มิติที่สะท้อนผลสัมฤทธิ์ ได้แก่ Moral Foundation (รากฐานคุณธรรม) Altruistic Service (การให้เพื่อส่วนรวม) Holistic Well-being (สุขภาวะองค์รวม) Adaptive Development (การพัฒนาต่อเนื่อง) Transformative Engagement (การมีส่วนร่วมเชิงเปลี่ยนแปลง) Humanitarian Leadership (ภาวะผู้นำเพื่อมนุษยธรรม) Empowering Communities (การเสริมสร้างศักยภาพชุมชน) Resilient Network (เครือข่ายที่ยั่งยืน) และ Authentic Wisdom (ปัญญาที่แท้จริงเพื่อสังคม)การพัฒนารูปแบบนี้สามารถเป็นแนวทางให้คณะสงฆ์หนกลางใช้เป็นเครื่องมือในการปรับปรุงการดำเนินงานสาธารณสงเคราะห์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน และนำไปสู่การสร้างสังคมที่มีคุณภาพและยั่งยืน