STRESS MANAGEMENT OF EMPLOYEES IN PUBLIC LIMITED COMPANIES ACCORDING TO BUDDHIST PRINCIPLES

Abstract

This research, titled "Stress Management of Employees in Public Limited Companies According to Buddhist Principles," aims to: 1) examine the stress conditions of employees in public limited companies, 2) explore relevant Buddhist principles for stress management, 3) integrate Buddhist principles into stress management practices, and 4) propose a new body of knowledge related to an integration of Buddhist principles for stress management of employees in public limited companies. This study employed a qualitative research methodology by analyzing documents and conducting in-depth interviews with 25 representatives and executives from C.P. All Public Company Limited. The data were analyzed and presented in the form of descriptive analysis. The findings reveal that employee stress arises from 1) Internal factors such as workplace relationships, managerial expectations, and performance targets, and 2) External factors including the work environment, inequitable practices, and personal challenges. These stressors adversely impact both physical and mental health, thereby diminishing work performance. The Buddhist principles found to be particularly effective are Yonisomanasikara (wise consideration), which fosters critical thinking and a deep understanding of problems, and Sappurisa Dhamma (The Seven Virtues of a Good Person), which enhances moral virtues such as self-awareness, attentive listening, and fairness. The integration of these principles demonstrates significant improvements in employees' cognitive processes, problem-solving abilities, and emotional regulation. Yonisomanasikara enables employees to identify and address the root causes of stress effectively, while Sappurisa Dhamma promotes the development of virtues and interpersonal skills, contributing to greater workplace satisfaction and collaborative relationships. The study further conceptualizes the "3W Model," comprising Well-being (physical and mental health), Wisdom (analytical thinking enhanced through Yonisomanasikara), and Work-life Balance (ethical alignment and life harmony supported by Sappurisa Dhamma). The application of this model within organizations leads to the realization of a "Happy Workplace," characterized by a supportive work environment, enhanced job satisfaction, improved productivity, and strengthened interpersonal dynamics. This holistic approach underscores the potential of Buddhist principles in fostering both individual well-being and organizational success.

การศึกษาวิจัยเรื่อง "การบริหารความเครียดของพนักงานบริษัท มหาชน จำกัดตามหลักพุทธธรรม" มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพความเครียดของพนักงานบริษัท มหาชน จำกัด 2) ศึกษาหลักพุทธธรรมที่เกี่ยวกับการบริหารความเครียดของพนักงานบริษัท มหาชน จำกัด 3) บูรณาการการบริหารความเครียดของพนักงานบริษัท มหาชน จำกัดตามหลักพุทธธรรม และ 4) นำเสนอองค์ความรู้เกี่ยวกับการบูรณาการความเครียดของพนักงานบริษัท มหาชน จำกัดตามหลักพุทธธรรม ใช้ระเบียบวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการศึกษาวิเคราะห์เอกสารและการสัมภาษณ์เชิงลึก เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวแทนพนักงาน ผู้บริหาร บริษัท ซี.พี.ออลล์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 25 รูป/คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหาและนำเสนอผลการวิจัยเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า ความเครียดของพนักงานเกิดจากปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก ดังนี้ 1) ปัจจัยภายใน ได้แก่ ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน และเป้าหมายการทำงาน 2) ปัจจัยภายนอก ได้แก่ สิ่งแวดล้อมการทำงาน การปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมกัน และปัญหาส่วนตัว โดยความเครียดนั้น ส่งผลต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิต รวมถึงลดประสิทธิภาพในการทำงาน หลักพุทธธรรมที่เหมาะสมในการจัดการความเครียด ได้แก่ หลักโยนิโสมนสิการ ซึ่งช่วยพัฒนาการคิดวิเคราะห์และความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหา และหลักสัปปุริสธรรม 7 ที่ส่งเสริมคุณธรรม เช่น การรู้จักตนเอง การฟังอย่างตั้งใจ และความยุติธรรมการบูรณาการการบริหารความเครียดของพนักงานบริษัท มหาชน จำกัด ด้วยหลักพุทธธรรม 1) หลัก “โยนิโสมนสิการ” พบว่า พนักงานสามารถจัดการกระบวนการคิด โดยการวิเคราะห์และเข้าใจสาเหตุของปัญหา และแก้ไขปัญหาด้วยการใช้สติปัญญามากกว่าการใช้อารมณ์ ทำให้พนักงานเข้าใจต้นเหตุของความเครียดและแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม 2) หลัก “สัปปุริสธรรม 7” พบว่า พนักงานสามารถพัฒนาคุณธรรมและทักษะในการจัดการความเครียด ทำให้พนักงานมีความพึงพอใจในการทำงาน มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมงาน และผู้บังคับบัญชา ก่อให้เกิดผลในเชิงบวกองค์ความรู้จากการวิจัยนี้ ได้พัฒนาเป็น "3 W Model" ประกอบด้วย Well-being (สุขภาวะทางกายและจิตใจ), Wisdom (การพัฒนาปัญญาด้วย หลักโยนิโสมนสิการ), และ Work-life Balance (การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและงานด้วย หลักสัปปุริสธรรม 7) กล่าวได้ว่า เป็นแนวทางการบริหารความเครียดในองค์กร ที่สามารถนำโมเดลไปประยุกต์ใช้ในองค์กร จักส่งผลลัพธ์ในรูปแบบของ "Happy Workplace" ซึ่งสะท้อนถึงบรรยากาศการทำงานที่มีความสุข พนักงานมีความพึงพอใจในการทำงาน มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น และความสัมพันธ์ในองค์กรดีขึ้น