PROMOTING LOCAL LEADERSHIP OF KHAO PHANG KRAI SUBDISTRICT ADMINISTRATIVE ORGANIZATION, HUASAI DISTRICT, NAKHON SI THAMMARAT PROVINCE

Abstract

Research Title: “Leadership and Guidelines for Promoting Leadership of Khao Phangkrai Subdistrict Administrative Organization, Hua Sai District, Nakhon Si Thammarat Province” The objectives of this research were to study the level of leadership of the Khao Phangkrai Subdistrict Administrative Organization and to explore guidelines for promoting the leadership of local leaders in the organization. This study employed a quantitative research methodology. The population consisted of personnel and residents in the area, totaling 6,370 people. The sample size was determined using Krejcie and Morgan’s table, resulting in 364 respondents. The research instrument was a questionnaire, and the data were analyzed using descriptive statistics, including the mean (x̅) and standard deviation (S.D.), to interpret the respondents’ opinions. The findings revealed that the overall leadership of the leaders of the Khao Phangkrai Subdistrict Administrative Organization was at a high level, reflecting that local leaders possess strong administrative potential and demonstrate appropriate leadership behaviors conducive to local development. When considering each aspect separately, it was found that: The human relations aspect had the highest mean score, indicating the leader’s ability to build good relationships with personnel and citizens, being friendly and open to others’ opinions. The initiative aspect ranked second, reflecting the leader’s ability to create new approaches and apply technology for organizational development. The morality and ethics aspect was at a high level, showing honesty, transparency, and compliance with laws and official regulations. The personality aspect was also rated high, indicating confidence, politeness, and humility. The management aspect was rated at a high level as well, showing the leader’s ability to implement operations aligned with central policies and the needs of local people. Guidelines for promoting leadership should focus on developing interpersonal skills, encouraging creativity and strategic vision, instilling morality, ethics, transparency, and social responsibility, as well as developing appropriate personality traits and governance-based management practices. These efforts will enable local leaders to perform effectively, transparently, and accountably while genuinely responding to citizens’ needs—ultimately leading to sustainable local development.

การวิจัยเรื่อง การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ระดับภาวะผู้นำของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลเขาพังไกร จังหวัดนครศรีธรรมราช และเพื่อเสนอแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาภาวะผู้นำของผู้นำท้องถิ่นในองค์กรดังกล่าว งานวิจัยนี้ดำเนินการโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) กลุ่มประชากรประกอบด้วยบุคลากรขององค์การและประชาชนในเขตพื้นที่ รวมทั้งสิ้น 6,370 คน ขนาดกลุ่มตัวอย่างคำนวณตามหลักเกณฑ์ของ Krejcie และ Morgan (1970) ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่างที่เหมาะสม 364 คน เพื่อใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงประจักษ์สำหรับการวิเคราะห์ภาวะผู้นำของผู้บริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดังกล่าว ผลการวิจัยพบว่า ภาวะผู้นำของผู้นำองค์การบริหารส่วนตำบลเขาพังไกรโดย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้นำท้องถิ่นมีศักยภาพในการบริหารงานและ มีพฤติกรรมภาวะผู้นำที่เหมาะสมต่อการพัฒนาท้องถิ่น เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าด้าน มนุษยสัมพันธ์มีค่าเฉลี่ยสูงสุด แสดงถึงความสามารถของผู้นำในการสร้างความสัมพันธ์อันดี กับบุคลากรและประชาชน มีความเป็นมิตรและเปิดรับความคิดเห็นของผู้อื่น รองลงมาคือ ด้านความคิดริเริ่ม ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการคิดค้นแนวทางใหม่ ๆ และการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาองค์กร ด้านคุณธรรมและจริยธรรมอยู่ในระดับมาก โดยผู้นำมี ความซื่อสัตย์ โปร่งใส ปฏิบัติงานตามหลักกฎหมายและระเบียบราชการ ด้านบุคลิกภาพอยู่ในระดับมาก แสดงถึงความมั่นใจ สุภาพ เรียบร้อย และอ่อนน้อมถ่อมตน ส่วนด้านการบริหารจัดการอยู่ในระดับมากเช่นกัน โดยผู้นำสามารถดำเนินงานให้สอดคล้องกับนโยบายจากส่วนกลางและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ แนวทางการส่งเสริมภาวะผู้นำควรมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะมนุษยสัมพันธ์ การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ความโปร่งใส และความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงการพัฒนาบุคลิกภาพที่เหมาะสมและ การบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้ผู้นำท้องถิ่นสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่าง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง อันจะนำไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืนต่อไป